Extracurricular ชมรมลับ ธุรกิจรัก ซีรีส์เกาหลีแบบ Original Netflix แท้ๆ มาครบ 10 ตอนรวดเดียวจบ เรื่องราวด้านมืดของวัยรุ่นที่ทำธุรกิจไซด์ไลน์ จนต้องเข้าสู่วังวนความรุนแรงของอาชญากรรมที่ไม่อาจหวนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกต่อไป
ตัวอย่าง Extracurricular ชมรมลับ ธุรกิจรัก
ซีรีส์เกาหลีแนวทริลเลอร์ด้านมืดของนักเรียนไฮสคูล เรื่องราวของหนุ่มนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน โอ จีซู (รับบทโดยคิม ดงฮี) ที่มีอาชีพลับทำเงินมหาศาลจากการคุมงานขายตัวของเด็กสาววัยรุ่น แต่แล้ววันหนึ่งก็พลาดท่าถูกเพื่อนสาวร่วมโรงเรียน แพกยูรี (รับบทโดยพัค จูฮยอน) มารู้ความลับนี้ด้วย ในขณะเดียวกัน ซอ มินฮี (รับบทโดย จอง ดาบิน) เพื่อนร่วมห้องสาวสวยกลับมาเป็นเด็กในสังกัดของจีซูโดยไม่รู้ตัว
สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่ซีรีส์ที่ออกมาอาทิตย์ละตอนสองตอนแบบปกติ แต่มารวดเดียวจบ 10 ตอน ซึ่งก็หมายความว่าเป็นซีรีส์ Original Netflix แท้ๆ ที่ทำลงโดยตรงไม่ขึ้นกับเรตติ้ง มีการถ่ายทำแบบทีเดียวจบต่างไปจากละครเกาหลีที่นิยมถ่ายไปฉายไป เพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างเรตติ้งจากการปรับเปลี่ยนบท หรือตัดบทให้ตอนน้อยลงก็ยังได้ถ้าเรตติ้งไม่ดี (ปกติเกาหลีจบที่ 16 ตอนเสมอ) ซึ่งพอเป็นงานสร้างแบบนี้เลยทำให้เห็นว่าอารมณ์และแนวทางของเรื่องค่อนข้างแตกต่างจากปกติไปมาก ทุกตอนไม่ได้มุ่งเน้นที่เปิดปมขมวดปมให้จบแบบมีลุ้นกันเฉียดฉิวเพื่อให้คนติดตามต่อเนื่องไปทุกอาทิตย์ แต่เป็นการเล่าเรื่องยาวๆ แล้วถึงช่วงตัดจบตอนก็ตัดไป ไม่ได้บิ้วหนักแบบปกติ แล้วพอเริ่มตอนใหม่ก็มักจะต่อกันเหมือนฉากต่อฉากหนังยาวๆ มากกว่าจะกระโดดเรื่องไปจุดอื่นแบบที่ซีรีส์ปกติมักชอบทำกัน
Extracurricular ชมรมลับ ธุรกิจรัก
ตัวละครหลักของ Extracurricular ชมรมลับ ธุรกิจรัก
จุดเด่นของตัวเรื่องที่บอกว่าขายความดาร์คกันตั้งแต่หน้าปก แต่เอาจริงคือค่อนข้างใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดนั้น โดยช่วงแรกเรื่องเดินหน้าสำรวจเส้นทางการทำธุรกิจและชีวิตของตัวละครหลักทั้ง 3 ตัว โอ ซีจู พระเอกของเรื่องเด็กเรียนดีที่มีอาชีพลับๆ เหมือนพ่อเล้า แต่ตัวเขาเองบอกว่าเป็นงานรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าต่างหาก ซึ่งเรื่องเปิดมาตอนแรกอาจจะงงๆ กันสักนิดเพราะไม่มีฉากอย่างว่า แต่กลับเป็นเรื่องการข่มขู่รีดไถเงินจากหนุ่มโรคจิตที่มาใช้บริการของเขาแล้วทำเกินเลยกับสาวๆ โดยมี “หัวหน้าอี” (รับบทโดย Choi Min Soo) ที่เป็นด่านหน้าคอยรับส่งทำงานคุ้มครองสาวๆ โดยที่ทั้งหมดไม่เคยพบหน้ากัน ซึ่งพระเอกจะถูกทุกคนเรียกว่า “ลุง” เพราะคิดว่างานแบบพ่อเล้าคนที่คุมน่าจะเป็นชายสูงวัยแนวๆ มาเฟียแบบภาพลักษณ์ที่จำๆ กันมา ซึ่งประเด็นการเข้ามาทำงานนี้ของพระเอกก็ถูกเฉลยง่ายๆ ตั้งแต่เริ่มว่า พ่อแม่ทิ้งไปทำให้ความฝันเข้าเรียนมหาลัยมีปัญหา ต้องหาเงินมาเลี้ยงตัวและใช้จ่ายกับการเรียนสูงถึงเกือบร้อยล้านวอน แม้คนดูจะสงสัยว่าทำไมมันมากจัง แต่ตัวเรื่องไม่ได้ลงรายละเอียดว่าทำไมต้องใช้เงินขนาดนี้เลย แล้วข้ามไปเล่าเรื่องวิธีการทำธุรกิจของเขาแทนโดยละเอียด ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวกับการเจาะโลกของการบริการทางเพศยุคใหม่แบบนี้ ที่มีอุปกรณ์ไอทีหลายอย่างเข้ามาช่วยเหลือ อย่างริสแบนด์ติดตามตัวไว้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีฉากอย่างว่าอะไรทั้งสิ้นในเรื่องนี้ (หรือแม้แต่วาบหวิวก็ไม่มี) ซึ่งถ้าเป็นซีรีส์ฝรั่งจุดนี้มีความแรงกว่ามากแน่นอน แล้วก็ไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นหรือความรุนแรงอะไรอื่นอีกเลย นอกจากแค่ฉากในจินตนาการที่ดูรุนแรงแทรกมานิดหน่อย ส่วนใหญ่เป็นแค่ฉากลุ้นกับความเสี่ยงที่พระเอกต้องเจอ หลังแพกยูรีเพื่อนสาวคนใหม่จับได้ บทตัวเรื่องก็ออกแนวผจญภัยวัยรุ่นผสมกับเรื่องรักปนมานิดๆ ทำให้เรื่องราวช่วงแรกแทบไม่รู้สึกว่าดาร์คอะไรสักเท่าไหร่ ตัวเรื่องแม้จะไม่ถึงขนาดอืดอาด แต่ก็ไม่ได้มีเนื้อหาเข้มข้นมีจุดพีคต่อตอนอะไรมากนัก เหมือนหนังแนวเส้นทางธุรกิจวัยรุ่นวัยเรียนลับๆ ซะมากกว่า
สรุป
นี่เป็นซีรีส์เกาหลีแบบ Original Netflix แท้ๆ ที่หลุดจากแนวเรื่องและอารมณ์เดิมๆ ของสายเกาหลีไปแทบทั้งหมด มีเรื่องรักแซมมาเพียงน้อยนิดแต่ก็กำลังดีพอเหมาะกับเรื่องแล้ว ในช่วงครึ่งแรกของเรื่องจะดูเรื่อยๆ ไม่ดาร์คสักเท่าไหร่ แต่พอจากนั้นไปเรื่องถูกปรับโหมดเข้าสู่โหมดดาร์คของจริง แม้อาจจะมีหลุดเรื่องคาแรกเตอร์ตลกๆ ของตัวร้ายมาแทรกทำให้ดูขัดๆ ไม่สมจริง แต่ยังดีที่เรื่องส่วนอื่นดูจริงจังและจบแบบไม่เอาใจคนดูสายเกาหลีฟินๆ แต่เลือกจบแบบเรียลดาร์คตามที่ตัวเรื่องจริงๆ ควรจะเป็นได้ดี