Lost Girls เด็กสาวที่สาบสูญ ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายติดท็อปเบสเซลเลอร์ของนิวยอร์คไทม์ Lost Girls: An Unsolved American Mystery และเปิดฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์เมื่อต้นปี ก่อนมาลง Netflix ว่าด้วยคดีฆาตกรรมจากเรื่องจริงอย่าง Long Island Serial Killer เรื่องราวเกี่ยวกับ Mari Gilbert ผู้เป็นแม่ขาดการติดต่อกับลูกสาวของเธออย่าง Shannan Gilbert รวมถึงได้หายตัวไปอย่างลึกลับ แม้จะแจ้งทางตำรวจไปก็ได้เพียงความว่างเปล่ากลับมา นั่นทำให้เธอพยายามสืบหาด้วยตนเอง เพื่อหาคำตอบว่าลูกสาวของตนหายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
คดีฆาตกรรมเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก บ้างก็สามารถไขคดีออกมาได้ บ้างก็ยังคงเป็นปริศนาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน คดีเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สื่อและผู้คนให้ความสนใจ จนก่อให้เกิดหนังสือจำนวนมาก สารคดี จวบจนเป็นภาพยนตร์…ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง Lost Girls – เด็กสาวที่สาบสูญ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับที่เคยเสนอถูกเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์อย่าง Liz Garbus มารับหน้าที่กำกับคุณภาพงานครั้งนี้ อีกทั้งนี่ยังเป็นเรื่องราวที่สร้างจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญในอดีต ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทำเอาผมรอคอยที่จะรับชมอย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์จะเป็นอย่างไร มาอ่านกันเถอะ…
Lost Girls – เด็กสาวที่สาบสูญ เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ของ Netflix ที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ มีพล็อตเรื่องที่น่าค้นหา ช่วง 20 นาทีแรกมีความน่าสนใจค่อนข้างมาก ด้วยการให้เราเริ่มเก็บความสงสัยจากปริศนาที่เรากำลังเผชิญหน้าไปพร้อมกับตัวละคร ตัวละครอย่าง Mari สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความเป็นแม่คนออกมาได้ดีและน่าจดจำ ในส่วนที่น่าชื่นชมอีกคือการเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงในการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด อีกทั้งงานโปรดักชั่น ดนตรีประกอบ และการถ่ายทอดภาพสารคดีภายในเรื่องดูสมจริงมาก แม้จะมีข้อดีดังที่กล่าวไป
แต่ข้อเสียใหญ่ ๆ คือการที่บทภาพยนตร์ในการสร้างเรื่องราวและสร้างตัวละครยังไม่ดีพอ ตัวละครตัวอื่นนอกจากแม่หญิงสาวที่หายไป มันไม่มีความน่าจดจำเอาเสียเลย อีกทั้งทุกตัวละครอื่นล้วนเป็นเพียงตัวประกอบที่ตัดออกก็ไม่มีผลกับเรื่องราวนัก อีกหนึ่งในข้อเสียที่ต้องพูดถึงคือการดำเนินเรื่องราว มันขาดการส่งเสริมอารมณ์ภายในเรื่องไป ความสงสัยที่จะทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ จนถูกปลดปล่อยและสร้างความน่าจดจำ อันเป็นจุดเด่นของหนังสืบสวนไป นั่นส่งผลให้นี่เป็นภาพยนตร์สืบสวนที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ชมที่ไม่ชอบแนวภาพยนตร์นี้ แต่สำหรับผู้ชื่นชอบแนวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บอกเลยว่านี่เป็นหนังสืบสวนที่มีคุณภาพพอดูฆ่าเวลาได้อีกเรื่องครับ
สรุป
เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ของ Netflix ที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ มีพล็อตเรื่องที่น่าค้นหา และการเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงในการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด แต่ข้อเสียใหญ่ ๆ คือการที่บทภาพยนตร์และการดำเนินเรื่องราว นี่จึงเป็นภาพยนตร์สืบสวนที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ชม แต่สำหรับผู้ชื่นชอบแนวนี้…บอกเลยว่านี่เป็นหนังสืบสวนที่มีคุณภาพพอดูฆ่าเวลาได้อีกเรื่องครับ