Black Mirror คือซีรีส์ทางฝั่งอังกฤษ ซึ่งผู้เขียนบทหลักคือ Charlie Brooker แต่ละตอนจะประกอบด้วยทีมนักแสดงต่างกันไป รวมถึงฉากของเรื่องก็ต่างกันด้วย

เนื้อหาของเรื่องจะสะท้อนด้านมืดของเทคโนโลยี รวมถึงสำรวจจิตใจของมนุษย์และสังคม ซีรีส์นี้จะเล่าเรื่องสมมุติว่าถ้าเทคโนโลยีได้พัฒนาไปถึงจุดหนึ่งแล้ว จะส่งผลกระทบอะไรต่อมนุษย์บ้าง หากมนุษย์คิดค้นนวัตกรรมอะไรออกมาใหม่เพื่อช่วยอำนวยประโยชน์แก่มนุษยชาติ จะเป็นไปได้ไหมว่าอาจจะมีโทษที่เราคาดไม่ถึง เนื้อหาส่วนใหญ่จะเล่าถึงโลกอนาคต แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องเสมือนปัจจุบัน แต่ละเรื่องนั้นค่อนข้างสนุกและทำให้เราทึ่งกับไอเดียพอสมควร มีหลายประเด็นที่สามารถเก็บมาขบคิดหลังจากดูจบ หรือถกกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ชมด้วยได้อย่างสนุก หากใครชอบเรื่องราวแนวไซไฟ ซีรีส์เรื่องนี้จะเหมาะกับคุณมาก

นอกจากไซไฟที่เป็นโทนหลักของเรื่อง แต่ละตอนยังประกอบไปด้วยหลายๆ แนว ได้แก่ ดราม่า ลึกลับ ลุ้นระทึก ตลกร้าย หรือกระทั่งโรแมนติก ทั้งนี้ แต่ละตอนจะเป็นเรื่องราวหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน นั่นหมายความว่าเราจะดูแบบไม่เรียงลำดับตามตอนก็ได้ นอกจากนั้น วิธีการนำเสนอค่อนข้างรวดเร็ว และเน้นการแสดงให้เห็นมากกว่าการบอกเล่าด้วยคำพูด กล่าวคืออาจแทบไม่มีการเกริ่นนำอะไรให้คนดูเข้าใจ เปิดเรื่องมาก็เล่าทันทีเลย ทำให้ผู้ชมอาจจะงงในช่วงต้นว่าตัวละครมันพูดถึงอะไรกัน แต่พอดูไปสักพักก็จะตามทันเอง

สรุป

ชื่อซีรีส์ Black Mirror แปลตรงตัวว่า กระจกสีดำ อาจตีความไปได้หลายแง่มุม คำว่า กระจก หมายถึงสิ่งที่สะท้อนอะไรบางอย่าง ส่วนสีดำอาจจะสื่อถึง ความมืด หรือมุมลับที่ยังไม่มีใครมองเห็น ทั้งนี้ เป็นไปได้ไหมว่ากระจกสีดำนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่พวกเราเห็นกันจนคุ้นตาในปัจจุบันก็ได้ นั่นก็คือ หน้าจอโทรทัศน์ หน้าจอมือถือ แท็บเล็ต และหน้าจอคอมพิวเตอร์ (เมื่อปิดการทำงาน) นั่นเอง